หน้าหลัก ---> กระดาน โชว์พระเครื่อง ---> @@@ คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน @@@

Total 11 Record : 1 Page : 1

ช้าง @@@ คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน @@@

ส่งข้อความ








    ...พระพุทธมหาธรรมราชา 9" มาพร้อมกันทีเดียว สององค์...

     ช้าง ช๊อบบบบ ชอบบบบ.....   





@@@ คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน @@@
@@@ คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน @@@


โดย  ช้าง วันที่ 2012-02-14 13:07:04 
 
1.  

ส่งข้อความ




           องค์ต่อมา เพิ่งเคยเห็นองค์จริง......   










โดย  ช้าง วันที่ 2012-02-14 13:10:15 
 
2.  

ส่งข้อความ




             ด้านหลังเขียนไว้ว่า......   


                    สมเด็จพระศรีอินทรบดินทร์
                      พระพุทธมหาธรรมราชา
                 วัดหลักเมืองพัฒนาราม
                         ต.บุ่งคล้า
                     อ.หล่มสัก  จ.เพชรบูรณ์









โดย  ช้าง วันที่ 2012-02-14 13:15:16 
 
3.  

ส่งข้อความ









โดย  ช้าง วันที่ 2012-02-14 13:17:04 
 
4.  

ส่งข้อความ

สวยงามมาก ชอบอะ






โดย  กกกะทอน222 วันที่ 2012-02-14 13:18:37 
 
5.  

ส่งข้อความ






กราบสวัสดีท่านกกกระทอน  เข้ามาเร็วแต๊ๆ น้องตั้งตัวม่ายยย ทันนนน  แต่ก่อนเคยเห็นแต่องค์5" เพิ่งเคยเห็น9" องค์จริงๆก็มาอยู่ในบ้านแร๊ะ ...... คริ คริ      















โดย  ช้าง วันที่ 2012-02-14 13:27:04 
 
6.  

ส่งข้อความ




พ่อขุนผาเมือง 
          พ่อขุนผาเมือง ประสูติเมื่อใดไม่มีหลักฐาน ศาสตราจารย์ขจร สุขพานิช นักประวัติศาสตร์ไทยได้เขียนบทความเรื่องหนึ่งชื่อ Was Nam Thom The First Kingof Sukhodaya) ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า "หรือว่าพ่อขุนนำถมเป็นกษัตริย์องค์แรกของสุโขทัย" (ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ สภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ สำนักศิลปวัฒนธรรม สถาบันราชภัฏเพชรบูรณ์, 2539 : 17-25) ในบทความเรื่องนี้ศาสตราจารย์ขจร ได้สันนิษฐานโดยใช้หลักศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ 2 (จารึกวัดศรีชุม) ที่ระบุว่า "……..ลูกพ่อขุนศรีเนานำถมผู้หนึ่ง ชื่อพ่อขุนผาเมือง เป็นขุนในเมืองราด เมืองลุมคุมลงแสนช้างมาฝากรอมบ้านเมืองออกหลวงหลายแก่กม……." จากข้อความที่จารึกไว้ในหลักศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ 2 (จารึกวัดศรีชุม)ย่อมเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งว่าบรรพบุรุษของพ่อขุนผาเมืองนั้น คือพ่อขุนศรีเนานำถม ซึ่งเป็นคนไทยกลุ่มหนึ่ง และได้ครอบครองเมืองสุโขทัยและศรีสัชนาลัย
          พ่อขุนผาเมืองท่านนี้ครองเมืองราดและมีสหายชื่อพ่อขุนบางกลางท่าวครองอยู่เมืองบางยาง ต่อมาพ่อขุนศรีนาวนำถมได้ยกนางเสืองให้อภิเษกสมรสกับพ่อขุนบางกลางท่าว จึงเท่ากับว่าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อขุนทั้งสองนอกจากจะเป็นเพื่อนสนิทกันแล้วยังเกี่ยวดองทางเครือญาติกันด้วยการอภิเษกสมรสอีกด้วย นอกจากนี้หลักศิลาจารึกยังบอกให้ทราบต่ออีกว่า พ่อขุนผาเมืองมีพระภคินีองค์โต ชื่อพระนางเสืองและมีพระอนุชาองค์หนึ่ง ชื่อพระยากำแหงพระราม (วีรยุทธ วงศ์อุ้ย,2533 :19)
จากบทความที่ศาสตราจารย์ขจร สุขพานิช ได้เขียนไว้โดยอ้างหลักศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ 2(จารึกวัดศรีชุม) ที่ระบุว่าบรรพบุรุษของพ่อขุนผาเมืองนั้น คือ พ่อขุนศรีนาวนำถม มีโอรสและธิดา 2 องค์คือ พ่อขุนผาเมืองและนางเสือง จากบทความของผู้ช่วยศาสตราจารย์คมคาย หมื่นสายและคณะได้เขียนไว้ โดยอ้างหลักศิลาจารึกวัดศรีชุม ระบุว่า พ่อขุนนาวนำถม มีบุตร 2 คน พ่อขุนผาเมือง และพระยาคำแหงพระราม (นิทานพื้นบ้าน จังหวัดเพชรบูรณ์, ม.ป.ท, ม.ป.ป.)
          จากการวิเคราะห์บทความทั้ง 2 บทความข้างต้นนี้แล้ว น่าจะพอสรุปได้ว่าพ่อขุนนาว นำถม มีโอรสและธิดา รวม 3 พระองค์ ซึ่งตรงกับบทความที่ วีรยุทธวงศ์อุ้ย (2533 : 19) ได้ระบุไว้ ดังนี้ "นอกจานี้ศิลาจารึกยังบอกให้ทราบต่อไปอีกว่าพ่อขุนผาเมืองมีพระภคินีองค์โตชื่อ พระนางเสือง และยังมีพระอนุชาองค์หนึ่ง ชื่อพระยากำแหงพระราม" และ สุจิตต์วงษ์เทศ (อ้างถึงใน วีรยุทธ วงศ์อุ้ย,2533 : 35-36) กล่าวไว้ว่า " หม่อมเจ้าจันทร์จิรายุ รัชนี ทรงอ้างพระบรมราชาธิบายของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ว่า พ่อขุนบางกลางหาวแต่งงานกับนางเสือง และนางเสืองเป็นราชธิดาของพ่อขุนศรีนาวนำถม "
          จากข้อความในจารึกวัดศรีชุม ซึ่งเชื่อว่าเจ้าศรีศรัทธาเป็นผู้จารึกไว้ทำให้เราพอจะทราบภูมิหลังของพ่อขุนผาเมือง และพ่อขุนบางกลางท่าวอยู่บ้างและจากศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ 45 ซึ่งเป็นเรื่องการสาบานกันระหว่างกษัตริย์เมืองสุโขทัย และเมืองน่าน ในปี พ.ศ. 1935 ได้ระบุชื่อของบรรพบุรุษของกษัตริย์สุโขทัยไว้ เช่น ปู่ผาดำ    ปู่หวาน ปู่ขุนจิต ปู่ขุนจอด ปู่พระยา ปู่พระยาศรีอินทราทิตย์ ปู่พระยาบานเมือง ปู่พระรามราชย์ ฯลฯ (ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ สภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ , 2539 : 18)
พ่อขุนผาเมืองวีรบุรุษนักรบผู้เสียสละแห่งเมืองราด
          พ่อขุนผาเมือง ทรงประสูติเมื่อ พ.ศ.ใด ณ. สถานที่ใด ชีวิตในวัยเยาว์มีความเป็นมาอย่างไรไม่ปรากฎหลักฐานให้ทราบแน่ชัดพระนามของพระองค์ได้รับการจารึกที่ปรากฎเป็นเกียรติประวัติที่นักประวัติศาสตร์และบุคคลทั่วไปรู้จักพระองค์เมื่อพ่อขุนผาเมืองร่วมรบกับพ่อขุนบางกลางหาว ร่วมกันรบช่วงชิงเมืองสุโขทัยจากขอมได้รับชัยชนะ และร่วมใจกันสถาปนาอาณาจักรสุโขทัย และหลังจากนั้นเรื่องราวของพ่อขุนผาเมืองก็สูญหายไปจากประวัติศาสตร์เพราะไม่ปรากฏเรื่องราวของพระองค์ในจารึกอีกทำให้เราไม่อาจทราบได้ว่าหลังจากที่พระองค์กลับไปเมืองราดแล้วได้เกิดอะไรขึ้นกับพระองค์ พระองค์ครองเมืองราดอย่างปกติสุขหรือว่าประสบชะตากรรมอะไรบ้าง ดังนั้น เหตุการณ์รายละเอียดต่อจากพระองค์กลับเมือราดแล้ว จะมีเป็นเรื่องของตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา หรือเป็นเรื่องของมิติที่ 6 (การประทับร่างทรง) เท่านั้นซึ่งเป็นเรื่องราวนอกเหนือไปจากหลักฐานเชิงประจักษ์เป็นเรื่องของความเชื่อของบุคคลมากกว่าหลักวิชาการ
          พ่อขุนผาเมือง ผู้ครองเมืองราดมีพระสหายชื่อ พ่อขุนบางกลางหาวครองเมืองบางยาง ต่อมาพ่อขุนศรีเนานำถม พระบิดาของพ่อขุนผาเมือง ได้ยกนางเสืองซึ่งเป็นพระภคินีของพ่อขุน ผาเมือง ให้อภิเษกสมรสกับพ่อขุนบางกลางหาว (บางแห่งว่า"พ่อขุนบางกลางท่าว") จึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อขุนทั้งสอง นอกจากเป็นเพื่อนสนิทกันแล้ว ยังเกี่ยวดองทางเครือญาติที่แนบแน่นด้วยการอภิเษกสมรสอีกด้วยราชวงศ์เนานำถม (บางแห่งเรียกว่า นาวนำถม) ครอบครองเมืองสุโขทัย และศรีสัชนาลัย ส่วนบรรพบุรุษของพ่อขุนบางกลางหาวครองเมืองบางยางเท่านั้น จากหลักฐานที่ปรากฏตามศิลาจารึก หลักที่ 2 หรือจารึกวัดศรีชุมได้จารึกเรื่องราวตอนหนึ่งเกี่ยวกับราชวงศ์นาวนำถมว่า "…ปู่ชื่อพระยาศรีนาวนำถมเป็นขุนเป็นพ่อ…เสวยราชในนครสองอัน อันหนึ่งชื่อนครสุโขทัยอันหนึ่ง ชื่อนครศรีเสชนาไล…"
          จากข้อความของจารึก ชี้ให้ทราบว่าพ่อขุนศรีนาวนำถม ครองเมืองสุโขทัยและเมืองศรีสัชนาลัยเรื่องราวในการร่วมรบของพ่อขุนผาเมืองและพ่อขุนบางกลางหาว เกิดขึ้นเนื่องจากในขณะนั้น เป็นเหตุการณ์ที่ขอมสมาดโขลญลำพงยกทัพมาตีเมืองสุโขทัยและเมืองศรีสัชนาลัยแตกแล้ว ขอมสมาดโขลญลำพงจึงตั้งตนเป็นกษัตริย์ยึดครองเมืองทั้งสองซึ่งสร้างความเจ็บแค้นให้กับคนไทยในขณะนั้นเป็นอย่างมากอีกประการหนึ่งขณะนั้นพ่อขุนศรีนาวนำถมสิ้นพระชนม์แล้ว จะสิ้นพระชนม์ก่อนหรือเป็นเพราะว่าการทำสงครามกับขอมสมาดโขลญลำพง ทำให้ต้องมีอันเป็นไปอย่างใดอย่างหนึ่ง ศิลาจารึกไม่ได้กล่าวไว้ พ่อขุนผาเมือง และพ่อขุนบางกลางหาวจึงได้รวบรวมกำลังผู้คน และฝึกกองกำลังรบทหารหาญของคนไทย เพื่อแย่งชิงเมืองสุโขทัยและเมืองศรีสัชนาลัยจากขอมสมาดโขลญลำพงกลับคืนมาให้ได้ โดยจะกล่าวพอสังเขปดังต่อไปนี้
          ต่อมาชนชาติไทยนำโดยพ่อขุนผาเมือง และพ่อขุนบางกลางหาวมีกำลังคนมากขึ้น เพราะมีคนอพยพมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากไม่ต้องการที่จะอยู่ภายใต้การกดขี่ข่มเหงของขอมอีกต่อไป ด้วยความที่รักความเป็นไทและรักในสายเลือดไทยพ่อขุนผาเมือง ได้ตั้งชุมซ่องสุมกำลังคนอยู่ที่เมืองราดส่วนพ่อขุนบางกลางหาวตั้งชุม ซ่องสุมกำลังคนอยู่ที่เมืองบางยาง และทำการฝึกปรือ กองกำลังทหารเป็นกองกำลังปราบปรามขอม เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ตอนนี้ จารึกวัดศรีชุมหลักที่ 2 ตอนหนึ่งกล่าวว่า "…เมื่อก่อนผีฟ้าเจ้าเมืองศรีโสธรปุระให้ลูกสาวชื่อนางสิงขรเทวี กับขรรค์ชัยศรีให้นามเกียรติแก่พ่อขุนผาเมือง"
          จากข้อความในจารึกดังกล่าวทำให้ทราบว่า ขณะที่พ่อขุนผาเมืองและพ่อขุนบางกลางหาว กำลังรวบรวมผู้คนและฝึกกองกำลังรบอยู่นั้น ความอาจจะล่วงรู้ไปถึงผีฟ้าหรือพระเจ้าไชยวรมันที่ 7 เจ้าเมืองศรีโสธรปุระ (จากผลการค้นคว้าของ ศาสตราจารย์ยอธ เซเดส์ผีฟ้าผู้นี้คือ พระเจ้าไชยวรมันที่ 7 แห่งเมืองศรโสธรปุระหรือนครธมเมืองหลวงของขอม) ซึ่งพิจารณาแล้วเห็นว่า พ่อขุนผาเมือง เป็นบุคคลที่มีฝีมือกล้าหาญ เกรงว่าจะถูกกระด้างกระเดื่องต่อขอมในภายภาคหน้า จึงคิดที่จะผูกสัมพันธ์ไมตรี โดยยกพระราชธิดาชื่อพระนางสิงขรเทวีให้เป็นชายาร่วมคู่ครองเมืองราด และพระราชทานนามยกย่องเกียรติ ตามธรรมเนียมของขอมว่า "ภมรเต็งอัญศรีอินทรบดินทราทิตย์" พร้อมพระขรรค์ชัยศรีแก่พ่อขุนผาเมือง
          สรุปว่า พ่อขุนผาเมืองผู้ครองเมืองราด ได้อภิเษกสมรสกับพระนางสิงขรมหาเทวี เท่ากับว่าพ่อขุนผาเมืองได้เป็นพระราชบุตรเขยของพระเจ้าไชยวรมันที่ 7 จึงน่าจะบ่งบอกได้ว่าพ่อขุนผาเมืองมีอิทธิพลและความสามารถได้เป็นอย่างดี เพราะแม้กษัตริย์ขอมยังต้องยอมผูกไมตรี โดยใช้การเกี่ยวดอง(แต่งงาน) เป็นเครื่องผูกมัดจิตใจของกลุ่มคนไทย และยังมอบอำนาจเด็ดขาดในการปกครองกลุ่มคนไทยด้วยกันภายใต้อาณาจักรขอม (ขณะนั้นขอมปกครองเมืองสุโขทัย เมืองศรีสัชนาลัย เมืองบางยางและเมืองราดด้วย) เป็นการแสดงความเอาอกเอาใจพ่อขุนผาเมืองอย่างชัดเจน จึงเห็นได้ว่า พ่อขุนผาเมืองนั้นอยู่ในตำแหน่งที่ขอมยกย่องให้มีอำนาจสูงสุดทีเดียว แต่ถึงกระนั้นก็ตามพ่อขุนผาเมือง ก็ไม่ได้ลุ่มหลงกับลาภยศจากสิ่งสรรเสริญที่ขอมมอบให้ เหตุการณ์กลับกลายเป็นตรงกันข้าม ความขุ่นเคืองใจที่คนไทยถูกขอมกดขี่ ข่มเหง ปกครองเยี่ยงทาส และความคิดเดิมของพระองค์ในการที่จะสร้างชาติไทย ให้มีอำนาจอธิปไตยของตนเองนั้นยังมิเลือนหายไปได้ยังคงอยู่ในพระทัยของพระองค์อย่างมั่นคงตลอดมา จึงไม่หยุดยั้งที่จะฝึกปรือกองกำลังรบของทหารหาญคนไทยให้แข็งแกร่งและกล้าหาญ
          ในที่สุดกองกำลังรบของคนไทยภายใต้การนำทัพของพ่อขุนผาเมืองและพ่อขุนบางกลางหาว ที่ซ่องสุมอยู่ที่เมืองราด และเมืองบางยาง จึงได้เคลื่อนทัพไปรบกับขอมสมาดโขลญลำพง เพื่อที่จะยึดเมืองสุโขทัย และเมืองศรีสัชนาลัยกลับคืนมา และประกาศให้ขอมรู้ว่า ไทยมีความกล้าหาญเข้มแข็ง พร้อมที่จะประกาศเอกราชไม่ยอมเป็นเมืองขึ้นของขอมอีกต่อไป ดังปรากฏความในศิลาจารึกหลักที่ 2 ว่า "…เมืองสุโขทัยมีศึกสงครามกัน แล้วเมืองสุโขทัยตกไปเป็นของขอมสมาดโขลญลำพง ต่อมาพ่อขุนบางกลางหาว…เจ้าเมืองบางยาง และพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด จึงยกทัพมาแย่งเมืองสุโขทัยคืนได้…"
          สรุปความว่าพ่อขุนบางกลางหาว และพ่อขุนผาเมือง ร่วมกันรบกับกองทัพของขอมสมาดโขลญลำพงและได้ชัยชนะ ได้เมืองสุโขทัยกับคืนมาเป็นของคนไทยการรบของทั้งสองพ่อขุน กว่าจะได้เมืองสุโขทัยและเมืองศรีสัชนาลัยกลับคืนมาเป็นของคนไทยอีกครั้งหนึ่งนั้น ทั้งสองพ่อขุนทรงใช้พระปรีชาสามารถ ทั้งฝีมือการรบ ความเฉลียวฉลาด และร่วมปรึกษาหารือกันด้วยความรอบคอบฉลาดหลักแหลม ทั้งทางหนีทีไล่ ตลอดจนกลอุบายต่าง ๆ จนได้ชัยชนะนั้นมีความปรากฏเป็นหลักฐานของศิลาจารึกหลักที่2 ตอนหนึ่ง ดังนี้
          "…พลพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด พาพ่อขุน…ผดากันและกันพ่อขุนบางกลางหาวได้เมืองศรีสัชนาลัย….พ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราดเอาพลมา….บางขลง….เวนบางขลงแก่พ่อขุนผาเมือง แล้วพ่อขุนผาเมืองเอาพลเมื้อเมืองราด เมืองสากอได…ศรีสัชนาลัยสุโขทัย….ขอมสมาดโขลญลำพงรบ….แล้วพ่อขุนบางกลางหาวไป…พ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราดมา….ให้ประชุมพล…พ่อขุนบางกลางหาวแลพ่อขุนผาเมืองขี่ช้าง….พระยาผสมกัน….ตินให้ขี่ด้วยกันเหนือหัวช้าง ประคนแล้วพ่อขุนบางกลางหาว และขอมสมาดโขลญลำพงรบกัน พ่อขุนบางกลางหาวให้ไปบอกแก่ พ่อขุนผาเมือง…พ่อขุนผาเมือง….ขอมสมาดโขลญลำพง…พายพง…พ่อขุนผาเมือง จึงยังเมืองสุโขทัย เข้าได้…."
          วีรยุทธ วงศ์จุ้ย (2533 : 31-32) ได้สรุปความดังกล่าว ไว้มีความดังนี้การเข้าโจมตีเมืองสุโขทัย เพื่อแย่งชิงเมืองคืน พ่อขุนบางกลางหาวนำรี้พลจากเมืองบางยาง เข้าตีเมืองสัชนาลัยได้แล้ว ให้ไปเชิญพ่อขุนผาเมืองมายังศรีสัชนาลัย แล้วทั้งสองพระองค์ทรงเข้าร่วมช้างเชือกเดียวกับออกเลียบเมืองเพื่อให้ขอมเข้าใจว่าทั้งสองพระองค์อยู่ร่วมกันรบในเมืองศรีสัชนาลัย เพื่อให้ขอมตายใจที่จะไม่ต้องกังวลใจถึงการที่จะต้องระมัดระวังเมืองสุโขทัย แล้วพ่อขุนผาเมืองก็กลับเมืองราด กองทัพของขอมจึงระดมกำลังพลทุ่มเข้าตีกระหน่ำรบศรีสัชนาลัย โดยไม่พะวงถึงการที่จะต้องป้องกันเมืองสุโขทัย พ่อขุนบางกลางหาวจึงมีม้าเร็ว แจ้งแก่พ่อขุนผาเมือง ให้รีบยกทัพเข้าตีเมืองสุโขทัยคำว่า ผดา หมายถึง แยกทางกันไป พายพง หมายถึง ยอมแพ้ ขอมสมาดโขลญลำพง เป็นใครมาจากที่ใดนั้น ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเป็นใครกันแน่ ถนอม อานามวัฒน์ (อ้างถึงใน วีรยุทธวงศ์อุ้ย , 2533 : 29) ได้ตีความว่า "ขอม หมายถึง ชาติขอม โขลญ คือ ตำแหน่งเจ้าเมืองลำพง เป็น ชื่อเมือง สมาด หมายถึง กล้าหาญ รวมความแล้ว คือ …เจ้าเมืองลำพงผู้เป็นชาวขอมที่มีความสามารถกล้าหาญ แต่ก็ไม่ทราบอีกเช่นกันว่า เป็นใครกันแน่"
          จำเนียร ปฏิเวธวรรณกิจ (อ้างถึงในวีรยุทธ วงศ์อุ้ย , 2533 : 32 )ได้กล่าวถึงการสู้รบของกองทัพทั้งสองพ่อขุนในครั้งนั้น ดังนี้ "….เมื่อขอมสมาดโขลญลำพง ยกทัพออกจากเมืองสุโขทัย โดยจะบดขยี้ทัพของพ่อขุนบางกลางหาวให้พินาศแหลกราญ โดยลืมระวังศึกด้านหลังเมื่อกองทัพของขอมยกออกจากเมืองสุโขทัยถึงชายเมืองศรีสัชนาลัย ณ ตรงบริเวณที่ขนาบด้วยลำน้ำยม และเทือกเขาพระศรี พ่อขุนผาเมืองก็ทุ่มกองกำลังรบของพระองค์ซึ่งเตรียมอยู่เข้าสมทบกำลังตีตะลุยขนาบที่รบกับกองทัพของพ่อขุนบางกลางหาว ซึ่งยกออกจากเมืองศรีสัชนาลัย ทัพของขอมสมาดโขลญลำพงแตกกระเจิงถอยร่นไม่เป็นขบวน พ่อขุนผาเมืองยกทัพตะลุยไล่ไพร่พลของขอมอย่างกระชั้นกระชิด จนพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง สามารถเข้ายึดเมืองสุโขทัยได้…"
          หลังจากที่กองทัพของขอมสมาดโขลญลำพงแตกแล้ว พ่อขุนผาเมือง จึงได้หยุดตั้งทัพรอ พ่อขุนบางกลางหาว อยู่ในเมืองสุโขทัย และได้มอบเมืองสุโขทัย ให้พ่อขุนบางกลางหาวขึ้นครองเป็นกษัตริย์ ดังปรากฏหลักฐานจากความในศิลาจารึกวัดศรีชุม หลักที่ 2 ดังนี้ "….เวนเมืองเก่าแก่พ่อขุนบางกลางหาว พ่อขุนบางกลางหาวมิสู้เข้าเพื่อเกรงแก่พระสหาย พ่อขุนผาเมืองจึงเอาพลออก พ่อขุนบางกลางหาวจึงเข้าเมือง พ่อขุนผาเมืองจึงอภิเษกพ่อขุนบาง กลางหาว ให้เมืองสุโขทัย ให้ทั้งชื่อตนแก่พระสหาย เรียกชื่อศรีอินทราทิตย์ เพื่อพ่อขุนผาเมือง เอาชื่อตนแก่พระสหายอีกเมือง เพื่อนั้น…" ความจากศิลาจารึกตอนนี้สรุปได้ว่า เมื่อพ่อขุนผาเมืองหยุดตั้งทัพรอพ่อขุนบางกลางหาว อยู่ในเมืองสุโขทัยนั้น พ่อขุนบางกลางหาวไม่กล้ายกทัพเข้าเมือง แสดงให้เห็นว่าพระองค์เกรงพระทัยพ่อขุนผาเมือง เนื่องจากพ่อขุนผาเมืองเป็นผู้ที่ตีเมืองสุโขทัยแตกต่อเมื่อพ่อขุนผาเมืองยกพลออกจากสุโขทัย แล้วพ่อขุนบางกลางหาวจึงยอมเข้าเมืองสุโขทัย
          กรณีนี้ อาจสันนิษฐานได้ว่า พ่อขุนบางกลางหาว ทรงตระหนักดีว่าราชสมบัติที่เมืองสุโขทัยแห่งนี้ พ่อขุนผาเมือง มีสิทธิ์ที่จะเป็นกษัตริย์ เพราะทรงเป็นโอรสพระองค์หนึ่งของราชวงศ์ ศรีนาวนำถม แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นไปดังที่คาดคิดไว้ กลับกลายเป็นตรงกันข้าม พ่อขุนผาเมืองทรง ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวมอบเมืองสุโขทัยให้แก่พ่อขุนบางกลางหาวขึ้นครองเป็นกษัตริย์ แล้วพระองค์จึงยกพลกลับเมืองราด เหตุที่พ่อขุนผาเมืองไม่ยินดีที่จะเป็นกษัตริย์ถือครองกรุงสุโขทัย อาจเป็นด้วยเหตุผลสำคัญคือ มเหสีของพระองค์นั้นเป็นขอม ทายาทที่จะเป็นกษัตริย์ครองแผ่นดินถัดต่อจากพระองค์ต่อไปจะมิใช่เป็นสายเลือดไทยแท้ พระองค์จึงมอบสิทธิ์นั้นให้แก่พ่อขุนบางกลางหาว พระสหายร่วมรบอีก ทั้งยังมีศักดิ์เป็นพี่เขย และพระองค์ยังได้พระนามแก่พ่อขุนบางกลางหาวว่า "ขุนศรีอินทรบดินทราทิตย์" อันเป็นพระนามของพระองค์ที่ได้รับพระราชทานมาจากพระเจ้าไชยวรมันที่ 7 ต่อมาพระนามนี้กร่อนกลายเป็นเหลือเพียงคำว่า "ศรีอินทราทิตย์" หรืออาจจะเป็นเพราะว่า พระองค์ทรงเคารพรัก พ่อขุนบางกลางหาวอย่างมาก เนื่องจากพ่อขุนบางกลางหาวเป็นผู้ที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการวางแผน การรบผู้หนึ่ง อีกทั้งยังเป็นพี่เขยของพระองค์อีกด้วย
          พ่อขุนผาเมือง เมื่อเสด็จกลับสุโขทัย คืนสู่เมืองราด แล้วชื่อเสียงของพระองค์ก็ขาดหายสาปสูญไปจากประวัติศาสตร์ไทย และไม่มีจารึกไว้ จึงทำให้พวกลูกหลาน เหลน โหลน ของพ่อขุน ผาเมือง ไม่อาจทราบได้ว่าพระองค์ท่านหายไปไหน พรชนม์ชีพบั้นปลายของพระองค์ท่านเป็น อย่างไร คงเหลือไว้แต่ความสงสัย ใคร่รู้ของพวกเราอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพ่อขุนผาเมืองจะหายไปไหน เมืองราดจะอยู่ที่ใด คำถามสองประการนี้ยังท้าทายและเป็นภาระของนักวิชาการที่จะสืบค้นกันต่อไป จนกว่าจะได้ข้อสรุปที่แน่นอนและชัดเจนแต่สิ่งที่แน่นอนที่สุดในขณะนี้ คือวีรกรรมและความเสียสละของพระองค์ โดยการเอาชีวิต เลือดเนื้อของพระองค์เข้าแลกกับความเป็นไทและอธิปไตยของชาวไทย นับว่าเป็นคุณอนันต์ต่อประวัติศาสตร์สุโขทัยและปวงชนชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง จึงสมควรแล้วมิใช่หรือที่เราจะต้องยกย่อง เชิดชูพระเกียรติของท่าน เป็น วีรบุรุษนักรบผู้เสียสละแห่งเมืองราด

การสร้างอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง 

       พ่อขุนผาเมือง วีรบุรุษแห่งเมืองราด พระประวัติของพระองค์ได้ปรากฎในประวัติศาสตร์ไทยตอนต้นยุคกรุงสุโขทัย พระองค์ทรงเป็นผู้นำการต่อสู้ที่กล้าหาญ เพื่อให้คนไทยได้อิสระจากขอม สามารถเข้าตีกรุงสุโขทัยได้สำเร็จ และได้เสียสละให้เพื่อน คือ พ่อขุนบางกลางท่าว ครองกรุงสุโขทัย เป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์พระร่วง ทรงพระนามว่า "พ่อขุนศรีอินทราทิตย์"เมืองราด ซึ่งเป็นเมืองของพ่อขุนผาเมือง ปัจจุบันคืออำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ และชาวไทยทั้งชาติได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพ่อขุนผาเมือง ตลอดจนความเก่งกล้าสามารถของพระองค์ ในปี พ.ศ. 2517 ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ร่วมใจกันที่จะสร้างอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง ไว้เป็นที่สักการะบูชา ดังนั้น ในวันที่10 มิถุนายน 2518 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กองหัตถศิลป์ กรมศิลปากรหล่อพระรูปของพ่อขุนผาเมืองขึ้น ในวันที่ 9 มีนาคม 2520 สมเด็จพระโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสร็จพระราชดำเนินทรงประกอบพระราชพิธีวางศิลาฤกษ์ เพื่อให้เป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมืองที่ตำบลหนองไขว่ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ (ปัจจุบันเป็น ตำบลน้ำชุน : เปล่ง อิ่มคง)
        ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2527 ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ประกอบพิธีอัญเชิญรูปหล่อของพ่อขุนผาเมืองประดิษฐานบนแท่น วันที่ 30 สิงหาคม 2527สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จมาเป็นองค์ประธานประกอบพิธีเปิดอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมืองตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมืองจึงเป็นที่รวบรวมจิตใจและเป็นสิ่งสักการะบูชา ของชาวจังหวัดเพชรบูรณ์และชาวไทยทุกคน


อ้างอิงจาก http://www.lkp.ac.th/thai/busaba/2551/rad/s3.html







โดย  ช้าง วันที่ 2012-02-14 13:51:12 
 
7.  

ส่งข้อความ

....วันแห่งความรัก ได้สิ่งที่รัก  ที่เดียว2องค์ ช่างสุดยอดเหลือเกินครับ งดงามสุดจะพรรณา ดีใจด้วยนะครับน้อง เยี่ยมเสมอครับ.....






โดย  chusak วันที่ 2012-02-14 18:00:41 
 
8.  

ส่งข้อความ
ลุงซ่าง





โดย  น้ำแตงโม วันที่ 2012-02-14 20:30:29 
 
9.  

ส่งข้อความ
ดีใจด้วยที่ได้พระสวยและถูกใจมาครอบครอง...เยี่ยมมาก...




โดย  ป่าสัก99 วันที่ 2012-02-14 22:26:22 
 
10.  

ส่งข้อความ

ของดีเมืองมะขาม..สวยสุดๆเลยครับ






โดย  โอ๊ค ท่าพล วันที่ 2012-02-17 19:00:13 
 
11.  

ส่งข้อความ
                                                        เค้าเรียกว่าคนมีบุญ




โดย  คนเมืองหล่ม วันที่ 2012-02-18 06:04:47 
 

Total 11 Record : 1 Page : 1